"ทับทิมกรอบ” นั้นแต่เดิมเป็นของกินเล่นของชาวบ้าน แต่ที่มาโด่งดังเพราะชาววังไปจำสูตรของชาวบ้านมาลองทำดู
เรื่องนี้มีบันทึกจากคำบอกเล่าของเจ้าจอมมารดาสดับ ในรัชกาลที่ 5 กล่าวถึง “พระวิมาดาเธอฯ
กรมพระสุทธาสินีนาฏ” พระอัครชายาในรัชกาลที่
5 ซึ่งทรงเป็นเจ้านายสตรีไทยสี่แผ่นดิน ที่มีความสามารถในการครัว เป็นเลิศ
ทรงกำกับดูแลเครื่องต้น
โดยทรงเป็นผู้ปรุงพระกระยาหารขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเป็นประจำ
ฝีมือในการปรุงอาหารหวานของวิมาดาเธอฯ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วเหล่า พระประยูรญาติ
และข้าหลวงฝ่ายในราชสำนัก
เจ้าจอมมารดาสดับเคยตรัสเล่าไว้ว่า
“สมัยที่พระวิมาดาเธอฯ ยังทรงพระเยาว์
ท่านเป็นเด็กที่เอางานเอาการ
เมื่อมีพระชันษาเพียง 9 ปี สมัยนั้นกุฎีจีน
(ปัจจุบันคือบริเวณหน้าโบสถ์ซานตาครูส
ฝั่งธนบุรี ติดกับวัดกัลยาฯ) เป็นที่อยู่อาศัยของคนไทยเชื้อสายโปรตุเกส
ที่อพยพมา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งสุดท้าย
ผู้ที่มีเชื้อสายตะวันตกเหล่านี้
เป็นผู้ที่มีฝีมือในการทำขนม
ขนมไข่หรือ หรือขนมฝรั่ง “กุฎีจีน
เป็นขนมที่ขึ้นชื่อมาก เป็นการอนุรักษ์วิธีทำขนมเค้กของคนโปรตุเกสที่มาตั้งถิ่นฐาน
อยู่ในพระนครศรีอยุธยาเมื่อสี่ร้อยปีที่ผ่านมารวมทั้งการทำขนมหวานตามตำรับโปรตุเกส ที่คนไทยรู้จักในนามของ “ขนมท้าวทองกีบม้า” นอกจากนั้นที่กุฎีจีนยังมีผู้ทำเม็ดทับทิมกรอบงานใคร
มีเม็ดทับทิมดังกล่าวในโถกลาง สำรับอาหารละก็ เป็นเก๋ทีเดียว”

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น